
สำหรับต้นฟอร์เก็ต มี น็อต นั้น มีลำต้นที่แข็ง สูงประมาณ 0.5-1 เมตร มีกิ่งก้านแตกแขนงรอบลำต้น ใบเล็กเรียวปลายโค้งมน มีขนอ่อนปกคลุมทั้งสองด้าน ออกดอกเป็นช่อ ๆ หนึ่งยาวประมาณ 20- 30 ซม. มีลักษณะเป็นดอกไม้ สีฟ้า 5 แฉก ขนาดเล็กโดยจะออกดอกตามปลายยอดส่วนโคน กลีบจะเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น ๆ
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Cynoglossum Lanceola tum Forssk อยู่ในตระกูล BORAGINACEAE ซึ่งทางโครงการฯ นำเข้ามาจากประเทศแคนาดา อายุการเพาะเมล็ด จากวันเพาะถึงวันงอกประมาณ 7 วัน จากนั้นจะย้ายลงถาดหลุม เพื่อเลี้ยงให้เจริญเติบโต โดยมีการคัดรุ่นที่โตไล่เลี่ยกันไปเลี้ยงต่ออีก 23 วัน ต่อจากนั้น จะนำไปลงเลี้ยงในถุงเพาะ ซึ่งเรียกช่วงนี้ว่า เป็นการขุนไม้รุ่น ให้เจริญเติบโตและอุดมสมบูรณ์เพื่อจะได้ดอกที่สมบูรณ์อีกประมาณ 40-45 วัน
จากนั้น ต้นฟอร์เก็ต มีน็อตจะเริ่มออกดอก รวมอายุตั้งแต่งอกจนกระทั่งออกดอกประมาณ 70-80 วัน ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่จะผลิตด้วย เนื่องจากความร้อนกับความหนาวมีผลต่อกับการบานของ ดอกให้เร็วหรือช้าได้ โดยถ้าอากาศร้อนดอกจะบานเร็วขึ้น และโรยเร็ว อายุการใช้งานสั้น แต่ถ้าอากาศเย็นจะใช้ระยะเวลาในการบานนานและอยู่ได้นาน กว่าจะโรย ซึ่งอาจจะบานช้ากว่าปกติเล็กน้อยแต่ได้สีสันสดใสและดอกที่สมบูรณ์กว่า คือ ดอกจะช่อชูตั้งไม่บิด ไม่คดงอ เพราะบางครั้งได้รับแสงน้อยเกินไปลำต้นจะเอียงไปหาแสง ทำให้ต้นไม่ตรง มีการคดงอ รวมทั้งลักษณะใบจะซีดเหี่ยวไม่สดใส
"ดินที่ใช้ปลูกจะเป็น ดินที่มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำดี เพราะถ้าดินระบายน้ำได้ไม่ดีต้นจะเน่า จึงต้องเป็นดินร่วนที่มีลักษณะชื้นแต่ไม่แฉะ รดน้ำวันละครั้งแต่ต้องดูสภาพดินด้วย ถ้าดินผสมอุ้มความชื้นไว้น้อยจำต้องคอยหมั่นตรวจดู เพราะช่วงที่ออกดอกบานเป็นช่วงที่ใช้น้ำมากเพื่อให้มีความชื้นสูง ถ้าความชื้นไม่พออาจต้องรดน้ำเพิ่มเป็น 2 ครั้งต่อวัน
ฟอร์เก็ต มี น็อต เป็นพืชเมืองหนาว โดยปกติจะปลูกบนที่สูงยิ่งอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส จะออกดอกสวยงาม ซึ่งจะรดน้ำวันละครั้ง ช่วง 6-7 โมงเช้า แต่ถ้า นำมาปลูกที่ในเขตพื้นที่ร้อน อย่างกรุงเทพฯ จะต้องรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เพราะอากาศร้อนและมีการคายน้ำมาก ถ้าความชื้นไม่พอต้นจะเหี่ยว การรดน้ำต้องรดตอนเช้าช่วงที่แดดอ่อน ๆ เพราะถ้ารดตอนที่แดดแรงจะไม่เป็นผลดีกับต้นไม้ และอีกครั้งในตอนเย็นประมาณ 4-5 โมงเย็น" ส่วนการใส่ปุ๋ย ในการเลี้ยงปกติช่วงแรกจะเป็นปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง ต่อมาในช่วงระยะการเจริญเติบโตจะให้ปุ๋ยสูตรเสมอจนกระทั่งเริ่มออกดอกหรือว่าเมื่อใกล้จะออกดอกจะให้ ปุ๋ยสูตรตัวกลางกับตัวหลังสูง ทั้งนี้ต้องดูว่าเลี้ยงในแบบสภาพอากาศใด ซึ่งการใส่นั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับสภาพที่ปลูกในขณะนั้น สิ่งที่ต้องระมัดระวัง จะอยู่ในส่วนของอากาศหรือ ลม ถ้าระบายไม่ดีเท่าที่ควรหรืออากาศนิ่งมีความชื้นสูงและมีความร้อนเข้ามาจะทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เชื้อราต่าง ๆ ประกอบกับถ้าต้นไม้มีใบที่เป็นโรคอยู่หรือใบมีตำหนิ อ่อนแออยู่แล้วเชื้อโรคจะเข้าไปทำลายจุดที่เป็นแผลหรือจุดที่อ่อนแอของต้นได้ อีกอย่างหนึ่ง คือ โรคเน่า คือ ถ้าการระบายน้ำไม่ดี รวมทั้ง อากาศร้อนและมีความชื้นสูงก็อาจเกิดโรคเน่าได้เช่นกัน ต้องหมั่นตรวจดูเป็นระยะ ๆ ส่วนแมลงไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตนัก เพราะมีการฉีดยาป้องกันตามช่วงอายุของการเจริญเติบโต ซึ่งอาจจะมีเพลี้ยบ้างเล็กน้อย หากต้องเลี้ยงในสภาพที่ไม่เหมาะสม สิ่งที่แน่นอน คือ อายุจะสั้น ดอกโรยเร็ว แต่ถ้าต้องการหรือมีความจำเป็นในการนำมาปลูกในพื้นที่ร้อน จำต้องมีการเตรียมตัว ประการแรก คือ จะต้องให้แสงที่เพียงพอ ให้ทุกส่วนของต้นไม้ได้รับแสงเพื่อให้ทุกชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อมีความแข็งแกร่งมากที่สุด โดยมีการใช้ฮอร์โมนหรือปุ๋ยช่วยเพิ่มหรือสร้างเนื้อเยื่อให้มีความแข็งแรง ทนทาน นั่นคือ เลี้ยงให้แข็งแกร่ง ไม่ให้งามมากจนเกินไป เพราะถ้าเลี้ยงงามมากจนเกินไปจะมีไนโตรเจนสูง ถ้าต้องเจอกับอากาศที่ร้อนมากจะซีด เหี่ยว และอาจจะไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ โดยปกติดอกฟอร์เก็ต มี น็อต จะบานอยู่ได้ในอากาศเย็นประมาณ 1 เดือน ถึงเดือนครึ่ง แต่ถ้าอากาศร้อนจะอยู่ได้ประมาณ 15 วัน ก็จะเริ่มโรย เมื่อโรยจะเริ่มแทงแขนงข้าง ๆ ออกมา ใครอยากเลี้ยงต่อก็สามารถเลี้ยงได้แต่ต้นและดอกอาจไม่สวยเหมือนครั้งแรกที่ทำการปลูก สำหรับการเลี้ยงบนดอยโครงการหลวง เป็นการเลี้ยง ให้คนมาชมความงาม ต้นไม้และดอกไม้จะต้องเลี้ยงให้ทรงต้นและดอกมีความสวยงามให้ผลที่สมบูรณ์เกือบร้อยเปอร์ เซ็นต์ หรือร้อยเปอร์ เซ็นต์ จึงต้องถอดทิ้งจากนั้นจะนำต้นอ่อนใหม่มาปลูกแทน เพราะถ้าเลี้ยงต่อไปมีแขนงข้างมาก ๆ ทรงต้นจะไม่สวย การเพาะเมล็ดขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนกันนั้น วิธีง่าย ๆ ให้ทิ้งระยะประมาณ 1 เดือน เมื่ออายุการใช้งานของต้นรุ่นแรกหมดลง รุ่นต่อมาจะเข้ามาแทนพร้อมที่จะออกดอกได้พอดี โดยจะต้องมีการวาง โปรแกรม วางตารางการเพาะ ซึ่งแต่ละฤดูกาล การเพาะหรือว่าระยะเวลาในการงอกจะแตกต่างกันไป ตรงนี้ต้องอาศัยสถิติและค่าเฉลี่ยอุณหภูมิของฤดูกาลเข้ามาช่วยด้วย "ฟอร์เก็ต มี น็อต หากมองในระยะไกลหรือมองผ่าน ๆ ต้นจะละเอียดเกินไป ยิ่งถ้ารวมกลุ่มเรียงกันไปจะละเอียด เป็นฝอย ไม่สวย แต่ถ้ามองใกล้ ๆ แล้วพิจารณาแต่ละดอกจะเห็นว่าทุกดอกที่บาน ออกมาจะบานเต็มที่และให้สีฟ้าที่เป็นสีฟ้าจริง ๆ ดูแล้วสบายตา สบายใจ มีความละเอียดอ่อนในแต่ละช่อดอก" ประวิทย์ บอกถึงความงามให้ฟัง